บ้านต๊ำม่อน หมู่ 6
ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
คำว่า “ต๊ำ” หมายถึง ลำน้ำแม่ต๊ำที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ส่วนคำว่า “ม่อน” (ถิ่น - พายัพ) หมายถึง เนินเขา,ยอดเขา “ต๊ำม่อน” จึงหมายถึงหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาตลอดสองฝั่งลำน้ำแม่ต๊ำ

ที่มา : นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 26 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พะเยา
บ้านต๊ำม่อน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ของ 2 ฝั่งของลำน้ำแม่ต๊ำ มีการสร้างบ้าน ที่พักอาศัยเรียงตามลำน้ำแม่ต๊ำ โดยประชากรพึ่งพาอาศัยแหล่งน้ำในการประกอบอาชีพ สภาพชุมชนยังไม่หนาแน่นเมื่อถึงฤดูน้ำหลากทำให้มีปัญหาในการติดต่อคมนาคมระหว่างสองฝั่งหนึ่ง จึงได้สร้างสะพานเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำขึ้นมาแต่ก็ไม่ถาวรเพราะสะพานดังกล่าวทำจากไม้ไผ่ หากมีกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านทำให้เกิดความเสียหายต่อสะพานถาวร ได้นำซุงมาทำเป็นเสาและใช้ไม้ไผ่สานทำเป็นพื้นสะพาน ทำให้มีสะพานที่สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทนต่อกระแสน้ำเชี่ยวต้องซ่อมอยู่เป็นประจำ ต่อมาจึงได้มีการย้ายสะพานมาสร้างบริเวณคอนกรีตในปัจจุบัน โดยใช้ไม้ซุงอย่างดีในการทำสะพานและสะพานได้ผุพังไปตามกาลเวลา
- พ.ศ.2264 พระพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองแผ่ขยายถึงล้านนา ได้มี เจ้าแม่แก้ว วันนา เป็นบุตรของเจ้าน้อยมหาพรหมและเป็นพี่ของเจ้าหลวงมหาจัยหรือพระเจ้าประเทศอุดรทิศ (เจ้าเมืองพะเยา ต้นตระกูลศรีติสาร) เห็นว่าพื้นที่ในสถานที่ตั้งของวัดต๊ำม่อนเดิมเหมาะสมเป็นที่ตั้งสถานประกอบพิธีทางศาสนาลัทธิมหายาน เจ้าแม่แก้ว วันนา จึงได้พระพุทธรูปพระประธานถวายเป็นทาน โดยจ้างปู่สล่าส่างคำตั๋น เป็นช่างปั้นนับจนปัจจุบัน พ.ศ.2562 รวม 298 ปี การสร้างพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องประดับด้วยแก้วศรีต่างๆ ชาวบ้านเรียก “พระเจ้าเงี้ยว” พระประธานองค์นี้ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมๆกับอารามเล็กๆ อยู่กลางป่ามีต้นโพธิ์ (ต้นศรี) ขึ้นมารอบอาราม ต่อมาขาดคนดูแลรักษากลายเป็นวัดร้างหลายปี พวกชาวเงี้ยว ชาวขมุและลั๊วะ อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งย้ายที่ทำกินไปเรื่อยๆ และสมัยนั้นอยู่กันเป็นกลุ่มเล็กๆ มีการรบราฆ่าฟันกันจึงต้องถิ้งถิ่นฐานไป ในเวลาต่อมาก็เริ่มมีชาวบ้านมาตั้งถิ่นฐานอีก รวมทั้งชาวลำปางได้อพยพมาอาศัยอยู่เพิ่มเป็นจำนวนมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน นับว่าชาวบ้านต๊ำม่อนปัจจุบันมีเชื้อสายมาจากลำปางและได้ช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดต๊ำม่อนขึ้นมาใหม่มีชื่อเรียกกันหลายชื่อ วัดต๊ำม่อนดอนชัยบ้าง วัดต๊ำม่อนศรีล้อมบุญโยงบ้าง ตามแต่จะเรียกกัน เหตุที่เรียกเช่นนี้เพราะวัดนี้ล้อมรอบไปด้วยต้นศรีหรือต้นโพธิ์และวัดตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ (ที่เนินสูงๆ ต่ำๆ ชาวบ้านเรียกว่า “ม่อน”) ดังนั้นบางกลุ่มจึงเรียกกันว่า “วัดต๊ำม่อนศรีล้อมดอนชัย” บางกลุ่มก็พากันเรียก “วัดต๊ำม่อนศรีบุญโยง” เนื่องจากเป็นวัดที่มีชาวบ้านทั่วสารทิศมาทำบุญกันมาก ทั้งชาวพื้นเมือง เงี้ยว ขมุและลั๊วะเพราะพื้นที่แห่งนี้มีวัดต๊ำม่อนเป็นวัดแห่งแรกเหมือนกับเนื้อนาบุญที่โยงใยทั่วถึงกันต่อมานิยมเรียกกันสั้นๆว่า “ต๊ำม่อน” วัดต๊ำม่อนหลังจากถูกปล่อยให้รกร้างมานานก็ได้มี ท่านพระครูบาคัณธะวัง พระครูบาปัญญาและพระครูบาแว ร่วมกับชาวบ้าน ได้ช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์เป็นถาวรสถานและมีถาวรวัตถุสืบทอดศาสนาต่อๆ กันมา โดยมีพ่อหราน มะโนเป็นมัคคทายกหรืออาจารย์วัดเป็นคนแรกและมี พ่อหน้อยศรีใจ นามบาน เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของบ้านต๊ำม่อน วัดต๊ำม่อน ตั้งอยู่เลขที่ 2 หมู่ที่ 6 บ้านต๊ำม่อน อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 5 ไร่ 81 ตารางวาโฉนดที่ดินเลขที่ 62133/62134
- พ.ศ.2516 ได้มีการก่อตั้งสถานีอนามัยตำบลบ้านต๊ำขึ้น เพื่อดูแลปัญหาความเจ็บป่วยเบื้องต้นของชาวบ้าน
- พ.ศ.2518 – พ.ศ.2524 ปกครองโดย พ่อหลวงกองคำ ปันคำ (ผู้ใหญ่บ้าน) ได้รับงบประมาณจากทางราชการ จึงได้มีการขยายถนนให้กว้าง 3 เมตร ขยายเป็น 8 เมตร และได้รับงบประมาณสนับสนุนเพื่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแทนสะพานไม่เดิม และวางแผนขอไฟฟ้าและถนนคอนกรีตเข้าสู่หมู่บ้านสำเร็จในปี พ.ศ.2520 ทำให้การคมนาคม การเดินทางไปรักษาเมื่อเจ็บป่วยสะดวกมากขึ้น เช่น เดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลพะเยาหรือเดินทางไปรักษาด้วยการเป่า หมอชาวบ้าน ในอีกหมู่บ้าน ถือเป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ และในปีดังกล่าวได้มีการย้าย คริสจักรมาจากบ้านต๊ำพระแลมาก่อตั้งที่บ้านต๊ำม่อนถือเป็นศูนย์รวมของพี่น้องศาสนาคริสต์และมีพิธีนมัสการพระเจ้าในทุกวันอาทิตย์ ปัจจุบันอยู่ในเขต บ้านต๊ำม่อน หมู่ 6
- พ.ศ.2524 ประชาชนไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีนโยบายกระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน มีการรับสมัคร อสม.ทุกหมู่บ้าน มีการอบรม อสม.ให้มีความรู้ในการดูแลสุขภาพประชาชนทุกกลุ่มประชากรหน่วยงานรัฐกระทรวงสาธารณสุขอบรม อสม.เกิดกลุ่ม อสม.ในหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันดูแลสุขภาพของคนในชุมชน และเริ่มสร้างฝายทดแทนน้ำแม่ต๊ำเนื่องจากหมู่บ้านมีสภาพแห้งแล้ง เริ่มโดย นายก๋องคำ ปันคำ
- พ.ศ.2532 ได้มีการก่อตั้งเทศบาลตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
- พ.ศ.2536 มีการกระจายอำนาจการปกครองเกิดการพัฒนาด้วยแนวคิดผู้นำในหมู่บ้านขึ้น พ่อหลวง ก๋องคำ ปันคำ จึงจัดการจัดประชาคมหมู่บ้านและดำเนินเรื่องเพื่อแยกบ้านต๊ำม่อนเป็น 2 หมู่บ้าน คือ ม.6 และ ม.12 เพื่อให้ได้รับงบประมาณในการพัฒนาหมู่บ้านและการกระจายอำนาจการปกครองโดยใช้ลำน้ำแม่ต๊ำเป็นแนวกั้นทุกกลุ่มประชากรเกิดหมู่บ้านขึ้นใหม่ 1 หมู่บ้าน
- พ.ศ.2540 มีการการแยกบ้านต๊ำม่อนเป็น 2 หมู่บ้านอย่างเป็นทางการ
- พ.ศ.2544 ปกครองด้วยพ่อหลวงเซ็น มูลเข้า ได้จัดตั้งกลุ่มเลี้ยงปลาดุกและกลุ่มเลี้ยงวัวเพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับคนในชุมชน มีการตั้งกองทุนหมู่บ้านโดยบริหารจัดการกองทุนในรูปแบบของสมาชิกกลุ่ม ปล่อยกู้ให้สมาชิกรายละ 30,000 บาท/คน ให้สมาชิกออมทุกเดือนๆ ละ 50 บาท รัฐบาล สนับสนุนงบประมาณ มีสมาชิกกองทุน จำนวน 120 คน เกิดกลุ่มกองทุนและมีผู้รับผิดชอบในรูปแบบของคณะกรรมการกองทุน ซึ่งประชาชนในหมู่บ้านมีการประกอบอาชีพหลักๆคือ การทำการเกษตรที่อยู่กับไร่สวน มีรายได้จากการขายผลผลิตทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ จากการประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ ทำการเกษตรที่มีต้นทุนจากการผลิตสูง เช่น ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้เกิดกลุ่มต่างๆขึ้นในชุมชน และส่งผลให้กลุ่มนั้นเข้มแข็งช่วยเหลือตนเองได้และช่วยเหลือชุมชน ได้แก่ 1.กลุ่มกองทุนหมู่บ้าน 2. กลุ่ม อสม.
- พ.ศ.2545 มีการก่อตั้งกลุ่มจักรสารเพื่อส่งเสริมรายได้ในช่วงเวลาว่างจากการทำไร่และทำไร่สวน
- พ.ศ.2547 มีการยุบกลุ่มจักรสารลงเนื่องจากไม่มีผู้มารับซื้อผลิตภัณฑ์จักรสารของชาวบ้าน แต่ในปัจจุบันยังมีไม่กี่ครัวเรือนที่ยังทำเพื่อเสริมรายได้ในครัวเรือนของตนเอง
- พ.ศ.2552 มีการจัดตั้งกลุ่มปุ๋ยหมักเพื่อใช้ในการเกษตรเพื่อลดต้นทุนในการผลิตและลดการใช้สารเคมีที่อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
- พ.ศ.2552 – 2555 ได้มีการจัดทำแผนพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อพัฒนาปรับปรุงบริการด้านสาธารณสุข จึงได้รับการยกระดับจากสถานีอนามัย เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต๊ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 รวมถึงในปีเดียวกันพ่อหลวงศรีทอง สมวัน มีการจัดตั้งกลุ่มเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อให้ชาวนานำเมล็ดข้าวไปปลูกก่อนเมื่อได้รายได้จากการขายข้าวแล้วจึงนำเงินมาจ่ายค่าเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับกลุ่ม
- พ.ศ.2558 มีการก่อตั้งกลุ่มโคมไฟ เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีรายได้ ปัจจุบันกลุ่มตั้งอยู่ที่หน้าวัดบ้านต๊ำม่อน หมู่ที่ 6 แต่สมาชิกที่เข้าร่วมกลุ่มเป็นผู้สูงอายุที่มาจากหลายหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลบ้านต๊ำ
- พ.ศ.2560 เกิดอุทกภัยน้ำท่วมในหมู่บ้าน เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินครัวเรือน แต่ไม่ได้รับการเยียวยาในส่วนนี้แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเทศบาลบ้านต๊ำ คือ ถุงยังชีพและคนในชุมชนจึงร่วมมือกันในการจัดทำฝายกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม
- ปัจจุบันบ้านต๊ำม่อน หมู่ที่ 6 มีจำนวนครัวเรือน 180 หลังคาเรือน จำนวนประชากรตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร 567 คน เป็นชาย 285 คน หญิง 282 คน มีพื้นที่หมู่บ้านประมาณ 180 ไร่ พื้นที่การเกษตร 1070 ไร่ พื้นที่ทำนา 800 ไร่ พื้นที่สาธารณะ 3 แห่ง ผู้นำชุมชน คือ นายจิรพงศ์ ใจลา กำนันตำบลบ้านต๊ำ
สภาพทางภูมิศาสตร์ของหมู่บ้าน
หมู่บ้านต๊ำม่อน หมู่ 6 ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองพะเยาประมาณ 11 กิโลเมตร ห่างจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต๊ำประมาณ 1 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,565 ไร่ แบ่งเป็น
- พื้นที่อยู่อาศัย 250 ไร่
- พื้นที่ทำนา 400 ไร่
- พื้นที่ทำไร่ 50 ไร่
- พื้นที่ทำสวนผลไม้ 25 ไร่
- พื้นที่สาธารณะ/นันทนาการ 6 ไร่

- ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านต๊ำม่อนหมู่ 12
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลบ้านต๋อม
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านต๊ำพระแล หมู่ที่ 11
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านต๊ำน้ำล้อม หมู่ที่ 5
ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบต่ำ ลาดเอียงจากทางทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก สำหรับใช้ทำการเกษตรเป็นหลัก ได้แก่ การทำนา บางส่วนใช้ทำสวน ทำไร่ มีอุทยานแห่งชาติดอยหลวง มีน้ำตกจำปาทองและน้ำตกขุนต๊ำ เป็นต้นกำเนิดลำน้ำไหลผ่านสายหลัก ได้แก่ ลำน้ำแม่ต๊ำ จะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำอิงทางทิศตะวันออกบริเวณบ้านต๊ำดอนมูล หมู่ที่ 2 และไหลลงสู่กว๊านพะเยาทางทิศเหนือของกว๊าน ประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำเหล่านี้ในการอุปโภคและการเกษตร
ลักษณะภูมิอากาศ
- ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม อากาศร้อนที่สุดเดือนเมษายน
- ฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน – ตุลาคม อากาศร้อนที่สุดเดือนสิงหาคม – กันยายน
- ฤดูหนาว ระหว่างเดือน พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ อากาศร้อนที่สุดเดือนธันวาคม – มกราคม
สภาพภายในหมู่บ้าน
บ้านต๊ำม่อน หมู่ 6 ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีครัวเรือนทั้งหมดที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน จำนวน 150 หลังคาเรือน พื้นที่ส่วนใหญ่ในหมู่บ้านแบ่งเป็น พื้นที่เกษตรกรรมและบริเวณที่ตั้งของชุมชน ลักษณะบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านสองชั้น เป็นบ้านไม้ชั้นบนเป็นไม้ชั้นล่างเป็นปูนแหล่งประโยชน์ในชุมชน
แหล่งประโยชน์ในชุมชนประกอบด้วย วัด 1 แห่ง คริสต์จัก 1 แห่ง โรงเรียนบ้านต๊ำม่อน 1 แห่ง แหล่งน้ำสาธารณะ 3 แห่ง ประปา 1 แห่ง ศาลาอเนกประสงค์ 1 แห่ง ที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน 1 แห่ง ร้านขายของชำ 2 ร้าน ร้านขายอาหาร 4 ร้าน ร้านเสริมสวย 1 ร้าน โรงปุ๋ย 1 โรง เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ 1 แห่ง
การคมนาคมภายในและภายนอกหมู่บ้าน
บ้านต๊ำม่อน หมู่ 6 ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองพะเยา 11 กิโลเมตร ห่างจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต๊ำประมาณ 1 กิโลเมตร สภาพถนนถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ถนนภายในหมู่บ้านเป็นถนนลาดยาง สามารถสัญจรไปมาได้โดยสะดวก ไฟข้างทางมีตามจุดทางแยกและทางโค้ง ในหมู่บ้านเส้นทางที่ไปทำนา ทำสวนเป็นถนนคอนกรีต ประชากรส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์และรถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางถนนในหมู่บ้านจำนวน 7 สาย แยกได้ดังนี้
- ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 2 สาย รวม 830 เมตร
- ถนนลาดยาง จำนวน 2 สาย รวม 2500 เมตร
- ถนนลูกรัง จำนวน 2 สาย รวม 3000 เมตร
- ถนนดิน จำนวน 1 สาย รวม 1500 เมตร
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
บ้านต๊ำม่อน หมู่ 6 ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีแหล่งน้ำสาธารณะ 3 แห่ง ประชากรในหมู่บ้านใช้น้ำอุปโภคจากบ่อน้ำตื้น น้ำบริโภคโภคเป็นน้ำดื่มบรรจุสำเร็จรูป ส่วนน้ำที่ใช้ในทางการเกษตรมาจากสระน้ำที่ขุดเองและลำน้ำแม่ต๊ำ
โครงสร้างองค์กรชุมชน
ชุมชนบ้านต๊ำม่อน หมู่ที่ 6 อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีองค์กรในการบริหารการจัดการดูแลในหมู่บ้าน ซึ่งมีคณะกรรมการหมู่บ้านในการดำเนินการเป็นหลัก โดยมี นายจิรพงศ์ ใจลา กำนันตำบลบ้านต๊ำ เป็นผู้นำชุชนของบ้านต๊ำม่อน หมู่ที่ 6 เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในหมู่บ้าน ซึ่งคนในชุมชนให้การยอมรับนับถือและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีกลุ่มต่าง ๆ หลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคณะกรรมการหมู่บ้าน กลุ่มหัวหน้าคุ้ม กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน กม. โดยการเลือกตั้ง กลุ่มกิจกรรมตามกฎหมาย กลุ่มโคม กลุ่มเลี้ยงสุกรแม่บ้าน กองทุนเงินล้าน กลุ่มสตรี คณะกรรมการฌาปนกิจฯ คณะกรรมการ อป.พร. คณะกรรมการ สตบ. คณะกรรมการ กม. กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มเยาวชนต้นกล้า กลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้าน / กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มปุ๋ยการประกอบอาชีพในชุมชน
บ้านต๊ำม่อน หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีพื้นที่ทำนา ประมาณ 400 ไร่ พื้นที่ทำสวนผลไม้ 25 ไร่ รายได้ส่วนใหญ่ของหมู่บ้านจึงมาจากการเกษตรซึ่งเป็นรายได้หลักของประชาชนในหมู่บ้านการประกอบอาชีพ อาชีพหลัก อาชีพรอง และอาชีพเสริม ประชาชนมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนประมาณ 100,000 – 300,000 ปี
- อาชีพหลัก ของประชาชนบ้านต๊ำม่อน หมู่ 6 คือ เกษตร-ทำนา, เกษตร-ทำสวน,พนักงาน-รับราชการ
- อาชีพรอง คือ รับจ้างทั่วไป , ค้าขาย
- อาชีพเสริม คือ เลี้ยงวัว เลี้ยงปลานิล เลี้ยงไก่ จักรสาน ไม้กวาดดอกหญ้า
รายจ่ายของประชาชน คือค่าใช้จ่ายภายนอกการเกษตร เช่น ค่ารักษาพยาบาล เครื่องนุ่งห่ม ค่าน้ำ ค่า ไฟ ค่าอาหาร ค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น

ที่มา : นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 26 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พะเยา
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ที่มา : นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 26 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พะเยา
วัฒนธรรม ประเพณี
แบ่งออกเป็น ประเพณีทางพระพุทธศาสนา ประเพณีเกี่ยวกับความเชื่อของคนในชุมชน และประเพณีทางศาสนาคริสต์
ที่มา : นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 26 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พะเยา
นอกจากนี้ในหมู่บ้านต๊ำม่อน มีประชาชนส่วนหนึ่งที่นับถือศาสนาคริสต์ มีโบสถ์คริสจักรจำนวน 1 แห่ง ตั้งอยู่ในบ้านต๊ำม่อน หมู่ 6 ซึ่งได้ไปเข้าร่วมกิจกกรมทางศาสนาด้วยกัน โดยเฉพาะกิจกรรมประจำทุกวันอาทิตย์ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพอีกหนึ่งช่องทาง
Check in Tummon M.6 Phayao Thailand
ขอขอบคุณข้อมูลประกอบจาก
คณะนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 26
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีพะเยา